เนื่องจากคนไทยมากกว่า 140,000 คนอาศัยอยู่ในเกาหลีอย่างผิดกฎหมาย นั่นทำให้การตรวจคนเข้าเมืองยากขึ้นตามไปด้วยเมื่อมีคนไทยเดินทางเข้าเกาหลี
ดังนั้นนายหน้าไทยหลายต่อหลายคนจึงพยายามที่จะยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวมากขึ้น
อีกทั้ง ชาวไทยหลายคนก็กำลังแห่กันเดินทางเข้าไปเกาะเชจู เนื่องจากไม่จำเป็นต้องยื่นเรื่องขออนุญาตเข้าประเทศผ่านระบบ K-ETA ซึ่งจากสถิติของด่านตรวจคนเข้าเมืองเชจูได้ปฎิเสธชาวไทยไปแล้ว 60% ของผู้ที่ต้องการเข้าเกาะเชจู ปัจจุบันเกาะเชจูก็กำลังถูกผลักดันให้ใช้ระบบ K-ETA
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความยากลำบากในการเข้าสู่เกาหลี การปล่อยโฆษณาของนายหน้าไทยเพื่อดึงดูดผู้คนให้เดินทางเข้าเกาหลีก็ยังคงเกลื่อนตามโซเชียลในประเทศไทย
นายหน้ารายหนึ่งอ้างว่าหากชำระเงิน 49,000 บาทให้ เขาจะยอมบอกวิธีขอใบเดินทางเข้าและวีซ่าปลอมๆให้ แต่พวกเขาจะไม่รับประกันการเข้าเมือง 100%
นอกจากนี้ แม้ว่าบางคนจะโชคดีที่ผ่านตม.และเข้าเกาหลีได้ แต่ก็ต้องชำระเงิน 5,000 บาท ให้กับนายหน้าเพื่อหางานทำในเกาหลีใต้
ด้วยการเข้าเกาหลีและแอบทำงานโดยมิได้เป็นไปตามกฎหมาย ที่คุณจะต้องกังวลก็หนีไม่พ้นเรื่องของการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ยิ่งเวลานี้จำนวนผู้อพยพผิดกฎหมายที่อาศัยอยู่ในเกาหลีในปัจจุบันมีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงส่งผลให้มีการปราบปรามเข้มมากขึ้นเพื่อลดจำนวนผู้อพยพผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม การที่นายหน้าได้ป่าวประกาศโฆษณาชวนเชื่อนั้นก็เพื่อประโยชน์ของตนเองทั้งสิ้น ทั้งที่แจ้งไว้ชัดว่าไม่รับประกันการเข้าเมืองได้ 100% แล้วด้วย ควรเป็นประเด็นที่ฉุกให้คิดก่อนตัดสินใจเชื่อ
สถานการณ์ของชาวไทยในเกาหลีใต้ในปัจจุบันมีกว่า 140,000 คนอาศัยอยู่ในเกาหลีอย่างผิดกฎหมาย เรียกได้ว่ามากกว่าจำนวนชาวจีนและเวียดนามที่อยู่อย่างผิดกฎหมายรวมกันเสียอีก
นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่อุปทานได้ว่านักท่องเที่ยวไทยต้องงดเดินทางเข้าเกาหลีใต้ในช่วงนี้ เว้นแต่จำนวนคนไทยผิดกฎหมายจะลดลงก่อน เพราะอาจจะช่วยให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะลดความเข้มงวดลงบ้าง
ขอบคุณที่มาจาก : แหล่งข่าว