จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแรงงานสาวชาวกัมพูชาที่จบชีวิตลงในบ้านไวนิลแห่งหนึ่งในโพชอน ส่งผลให้ผู้ว่าการคย็องกีโดต้องออกโรงเร่งสอบสวนและปรับปรุงสวัสดิภาพที่พักแรงงาน
ผู้ว่าฯได้มีการออกดำเนินเตรียมปรับปรุงสถานที่พักของแรงงานต่างชาติในคย็องกีโดที่เรียกได้ว่ามีแรงงานต่างชาติรวมตัวกันมากที่สุด
แต่การดำเนินการจริงจังที่ทางผู้ว่าการคย็องกีโดนั้นกลับต้องพบกับอุปสรรคตั้งแต่เริ่มต้น
ปกติแรงงานต่างชาติมักพักอาศัยตามตู้คอนเทนเนอร์และบ้านไวนิล ซึ่งมักประสบปัญหาด้านสภาพอากาศ และห้องน้ำที่ห่างออกไปจากที่พัก แม้สถานที่พักจะไม่ดีไม่สะดวกแต่กระนั้นค่าเช่าห้องก็ยังต้องจ่ายด้วยราคาที่แพงอยู่ดี ด้วยที่พักอาศัยที่ไม่เพียบพร้อมพอที่จะทำเป็นบ้านพักเช่นนี้แต่ทำไมโคยงโนดงบู (กระทรวงแรงงาน) ที่ดูแลด้านนี้อยู่ถึงได้เมินเฉยนัก?
เอกสารที่ทางนายจ้างจัดส่งไปยังโคยงโนดงบูบ่อยครั้งเป็นที่อยู่ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นที่พักอาศัย หรือบางครั้งระบุที่อยู่อื่นๆ แต่โคยงโนดงบู (กระทรวงแรงงาน) กลับไม่ใส่ใจในรายละเอียดด้านนี้กลับปล่อยผ่านและอนุมัติเอกสารให้จัดจ้างต่างชาติได้
เจ้าหน้าที่โคยงโนดงบูให้เหตุผลว่าพวกเขาไม่มีกำลังคนเพียงพอที่จะติดตามตรวจสภาพที่พักอาศัยทุกที่ทั่วประเทศ
ทางการคย็องกีโดเองได้พยายามจะเริ่มการสำรวจที่พักชาวต่างชาติที่มีกว่า 6,200 คนที่อาศัยตามชนบทในคย็องกีโด แต่กลับโดนโคยงโนดงบูปฏิเสธการให้ข้อมูลที่พัก โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาต้องการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของแรงงาน ไม่สามารถเปิดหรือให้ข้อมูลใดๆต่อทางการคย็องกีโดได้
การเมินเฉยของโคยงโนดงบูสร้างความน่าสงสัยให้กับกลุ่มสิทธิมนุษยชนชาวต่างชาติว่า นี่อาจเป็นเหตุผลในการปกปิดข้อบกพร่องในการทำงานของกระทรวงในการเมินเฉยต่อการตรวจสอบรายละเอียดที่พักอาศัยของแรงงานต่างชาติ จึงแสดงออกต่อการขอความร่วมมือของทางการคย็องกีโดไปเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามทางการคย็องกีโดประกาศมั่นแล้วว่าถึงโคยงโนดงบูจะไม่ให้ความร่วมมือในการสำรวจและตรวจสอบที่พักแรงงานต่างชาติในคย็องกีโด ทางการก็จะมุ่งหน้าลุยหาข้อมูลด้วยตนเองผ่านผู้นำหมู่บ้านตามพื้นที่ต่างๆทั่วคย็องกีโดอยู่ดี และอาจจะมีการยื่นเรื่องขอความร่วมมือจากกระทรวงอีกครั้งในภายหลัง